อัพพริล ไกรมันส์ เกิดในปีค.ศ.1948 เธอเป็นนักออกแบบร่วมสมัย เธอได้ถูกขนานนามว่าเป็นนักออกแบบคนแรกที่นำเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้เป็นเครื่องมือในการออกแบบในปีค.ศ.1984 และได้นำเข้า New Wave Design สู่สหรัฐอเมริกา
เธอได้รับการศึกษาที่ The Allgemeine Kunstgewerbeschule ในเมืองเบเซิล ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และที่ The Kansas City Art Institute ก่อนที่เธอจะมาทำงานเป็นนักออกแบบกราฟฟิคที่เมืองนิวยอร์ค และสอนหนังสือไปด้วยในเวลาเดียวกันที่ The Philadelphia Collage of Art
งานชิ้นต่างๆของเธอได้รับการพัฒนามาจากความรู้ที่เธอได้มาจากการศึกษาที่โรงเรียนศิลปะในบาเซล ประเทศสวิวเซฮร์แลนด์ และในช่วงต้นค.ศ.1970 ในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ของ Armin Hofmann และ Wolfgang Weingart งานของเธอไม่ได้เพียงแค่รับอิทธิพลมาจาก International Style แต่ยังมีการผสมผสานสไตล์ของ Weingart ซึ่งภายหลังได้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ศิลปะแบบ New Wave ที่เป็นศิลปะที่ได้รับการยกย่องและชื่นชมในช่วงยุคศิลปะแบบ modernist ตัวเธอเองและผู้ร่วมงาน ชื่อว่า Jayme Odgers ยังได้รับการยกย่องศิลปะสไตล์ New Wave ให้เป็นศิลปะของอมริกาในช่วงปลายยุค 70 ไปจนถึงจนยุค 80
ในปีค.ศ.1976 เธอได้ย้ายไปอยู่เมืองแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ที่เธอได้เปิดสตูดิโอกราฟฟิคดีไซน์ของเธอเองในลอสแองเจลลิส โดยใช้ชื่อว่า Made in Space, Inc แนวกราฟฟิคของเธอ มักจะมีลักษณะเป็นงานคอลลาร์ด หรือประกอบไปด้วยเลเยอร์ของตัวอักษรและรูปภาพต่างๆ งานของเธอได้เป็นแรงบันดาลใจ และทำให้เกิด New Wave Design สู่เมืองแคลิฟอร์เนีย
ในช่วงกลางยุค 80 เธอได้เปลี่ยนมาใช้คอมพิวเตอร์ ถือเป็นความท้าทายของศิลปะแบบ International Style แต่อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งนี้หรือการใช้คอมพิวเตอร์นี้เป็นจุด
อ่อนหรือข้อด้อยในการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยเธอได้เอาประโยชน์จากสิ่งนี้และได้ผลออกมาเป็น HYPERLINK "http://en.wikipedia.org/wiki/Pixelation" \\\\\\\\o "Pixelation" pixelation และ HYPERLINK "http://en.wikipedia.org/wiki/Digitization" \\\\\\\\o "Digitization" digitization โดยทั้งสองอย่างนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของ digital art เธอได้ตระหนักถึงความเป็นไปได้ของดิจิตอลและเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น Apple, McIntosh และ Quantel Paintbox ได้ช่วยเธอสร้างการดีไซน์ขึ้นมา เธอได้ถูกขนานนามว่าเป็น ผู้หญิงที่มีความเชี่ยวชาญที่สุดในเรื่องการสร้างสื่อดิจิตอล
ในปีค.ศ.1982 เธอได้กลายมาเป็นบุคคลที่มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในแผนกดีไซน์ใน The California institute of The Arts
ในปีค.ศ.1986 เธอได้ใช้คอมพิวเตอร์ของ HYPERLINK "http://en.wikipedia.org/wiki/Macintosh" \\\\\\\\o "Macintosh" Macintosh ซึ่งเป็นพื้นฐานมีความสามารถที่จะคิดค้น รูปแบบของ Journal Design Quarterly ซึ่งภายหลังๆได้ถูกเพิ่มเติมแก้ไขโดย Mildred Friedman และ นำออกสู่สารธารณะชนโดย HYPERLINK "http://en.wikipedia.org/wiki/Walker_Art_Center" \\\\\\\\o "Walker Art Center" Walker Art Center ในหัวข้อ Does it make sense? ซึ่งหัวข้อนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญของวิวัฒนาการของกราฟฟิคดีไซน์ เธอได้ให้ภาพของแมกกาซีน ในรูปแบบของโปสเตอร์ที่ถูกแผ่ออก ขนาดประมาณ 3x6 ฟุต โปสเตอร์นี้เป็นขนาดจริง และ Mac Vision ได้ทำให้เราได้มองเห็นถึงภาพนู้ดของร่างกายที่ถูกแผ่ออก ถูกตกแต่งด้วยรูปภาพที่เป็นสัญลักษณ์และข้อความ ที่เป็นสิ่งยั่วยุของวัตถุหรือสิ่งที่แสดงออกมาได้อย่างเฉียบแหลม รวมไปถึงความมีเหตุผลและสิ่งที่แสดงถึงความเป็นชายในผลงาน สามารถทำให้ผลงานนี้แสดงออกได้ถึงความเป็น modernist design
หลังจากนั้นเธอยังได้บุกเบิกคิดค้นเทคนิคใหม่ๆและหาความท้าทาย นำไปสู่ผลงานกราฟฟิคดีไซน์ หนึ่งในงานทดลองของเธอ คือ Miracle Manor เป็นผลงานที่แสดงว่าเธอได้มีแนวทางถอยกลับร่วมไปกับ Michael Rotondi และยังถือเป็นผลงานที่เธอสามารถแสดงถึงการประยุกต์รูปแบบงานศิลปะได้อย่างลงตัว รวมไปถึงสี และวัตถุ ที่แสดงให้เห็นถึงความอ่อนไหวที่อยู่ภายในสิ่งก่อสร้าง ที่นำไปสู่ทิวทัศน์ของธรรมชาติ
เธอได้เขียนหนังสือ Hybrid Imagery : The Fusion of Technology and Graphic Design และได้ตีพิมพ์ในปีค.ศ.1990
เธอยังได้ทำงานเป็นนักออกแบบดีไซน์ให้กับบริษัทและโรงเรียนต่างๆ รวมไปถึง MAK Center for Arts and Architecture ในลอสแองเจลลิส, AOL/Time Warner, Microsoft, The US Postal Service and The Architects Frank O, Gehry, RoTo Architects และอื่นๆอีกมากมาย
ท่ามกลางรางวัลมากมาย เธอเป็นผู้ทดลอง ของ สถาบัน HYPERLINK "http://en.wikipedia.org/wiki/American_Institute_of_Graphic_Arts" \\\\\\\\o "American Institute of Graphic Arts" American Institute of Graphic Arts HYPERLINK "http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_AIGA_medalists" \\\\\\\\o "List of AIGA medalists" Gold Medal ในช่วงชีวิตที่ประสบความสำเร็จของเธอ เธอได้รับปริญญาเอกที่ถือเป็นเกียรติสูงสุดจาก Kansas City Art Institute; Lesley University, Boston College of Art; Academy of Art University.
ผลงาน
Identities, business cards, hang tags and postcards for Vertigo, 1979
(top) Logo for Inventing Flight, a centennial celebration that will coincide with the Ohio Bicentennial; (bottom)
Di-zin logotype, 1984
Los Angeles 1984 poster by April Greiman and Jayme Odgers, ©1984 Olympics/the artists/IOC/V&A
Five- and ten-second station identifications for Lifetime television, 1985
Does it make sense?, Design Quarterly #133, Walker Arts Press, 1986
Workspirit journal, front/back cover, logo, and table of contents spread, 1988
Summer programs poster for Southern California Institute of Architecture, 1991
Exterior signage, Southern California Institute of Architecture, 1993
US Postal Service stamp to commemorate the Nineteenth Amendment to the US Constitution, 1995
Wine label, dinnerware, stationary items, matches, dessert menu, and tea service for Fresco Restaurant, 1996
Logotype for Southern California Institute of Architecture (SCI-Arc)
Web site for Southern California Institute of Archtiecture (SCI-Arc), 1999
Web site for MAK Center for Art and Architecture, 1999 ( HYPERLINK "http://www.makcenter.org/" www.makcenter.org)
Logotype for RoTo Architects, 2000
Identity for Dosa 818, 2003
Guardrail to Sevilla, from Drive-by shooting: April Greiman Digital Photography, 2006
digital photographic print
Hand Holding a Bowl of Rice (daytime view), wall mural, Wilshire Vermont Station, Los Angeles, 2007
(Nighttime view)
Web site for RoTo Architects, 2007 ( HYPERLINK "http://www.rotoark.com/" www.rotoark.com)
Artist: The Masters Series: April Greiman
Window display outside SVA main entrance at 209 East 23 Street
Artist: The Masters Series: April Greiman
Street view of SVA main building at 209 East 23 Street
Artist: The Masters Series: April Greiman
View of installation inside the Visual Arts Museum
Artist: The Masters Series: April Greiman
Business card designs on display
